“FORD” ยันเปิดตัว ‘เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ ในไทย ปี 2569!

( 21-11-2025 ) “ฟอร์ด” ยืนยันเปิดตัว ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’ รุ่นดับเบิ้ลแค็บ คาดราคาประมาณ 1.8 ล้าน+ และรุ่นซิงเกิ้ลแค็บแชสซี 1.7 ล้าน+ ในไทย ปี 2569!

 ฟอร์ด ประเทศไทย สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับให้กับวงการรถกระบะไทย ประกาศยืนยันการเปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ 2 รุ่นย่อยได้แก่ รุ่นดับเบิ้ลแค็บ และ รุ่นซิงเกิ้ลแค็บแชสซี สุดยอดรถกระบะสำหรับภารกิจหนักตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทั้งกลุ่มนักเดินทางสายลุยที่ต้องการรถที่มีสมรรถนะสูงเพื่อการผจญภัยในเส้นทางออฟโรดสุดท้าทาย รวมถึงผู้ประกอบการหรือลูกค้าองค์กรที่ต้องการรถสำหรับภารกิจหนัก อย่างที่รถกระบะทั่วไปอาจไม่สามารถรองรับได้มาก่อน มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย ความอเนกประสงค์และมอบความสะดวกสบาย พร้อมเป็นรถคู่ใจสำหรับงานหนักทุกภารกิจ ทั้งในเมือง นอกเมือง

 

-ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ เป็นรถกระบะ เพื่อการทำงานหนัก (Heavy Duty) รวมเข้ากับความอเนกประสงค์สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน สมรรถนะรองรับการลากจูงสูงสุด 4,500 กิโลกรัม น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุก (GVM) สูงสุดถึง 4,500 กิโลกรัม โดยมีน้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุกและลากจูง (GCM) ถึง 8,000 กิโลกรัม พร้อมการออกแบบช่วงล่างที่พัฒนาให้มีความแข็งแรงขึ้น

-ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเติมเต็มช่องว่างในตลาดรถกระบะไทย ระหว่างรถกระบะทั่วไปที่อาจมีข้อจำกัดด้านการบรรทุก กับรถบรรทุกสำหรับงานหนักที่มีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับการใช้งานในพื้นที่สมบุกสมบัน ทีมออกแบบและวิศวกรของฟอร์ดในออสเตรเลียได้ทุ่มเทเวลามากกว่า 100 ชั่วโมงในการลงพื้นที่และใช้ชีวิตร่วมกับผู้ใช้รถกระบะจริงทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เพื่อทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของรถที่สามารถเป็นได้ทั้งเครื่องมือทำงานที่แข็งแกร่งและเพื่อนร่วมทางในการผจญภัย

-ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ ผลิตจากโรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) หรือ เอเอที จังหวัดระยอง เพื่อรองรับการจำหน่ายทั้งตลาดในประเทศและส่งออกทั่วโลก การเปิดตัวในปี 2569 จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะไทยด้วยคุณภาพที่ได้มาตรฐานจากโรงงานระดับโลกที่พร้อมใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเพิ่มเติม

‘ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้’

เครื่องยนต์: ดีเซล V6 เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร

แรงบิด /กำลัง: 600 นิวตันเมตร (ณ ~1,750 รอบ/นาที)

เกียร์: อัตโนมัติ 10 สปีด

ระบบขับเคลื่อน: 4 ล้อ (4WD) แบบ Full-time (ในบางรุ่น)

ความสามารถลากจูง (Towing): สูงสุด 4,500 กิโลกรัม แบบมีเบรก (Braked towing)

น้ำหนักรถรวม-บรรทุก (GVM): 4,500 กิโลกรัม

น้ำหนักรวมบรรทุก +ลากจูง (GCM): 8,000 กิโลกรัม

น้ำหนักบรรทุก (Payload): สูงสุดประมาณ 1,982 กิโลกรัม (รุ่น cab-chassis)

ความสูงจากพื้น (Ground Clearance): สูงสุด 299 มม.

ถังน้ำมัน: ความจุ 130 ลิตร (ถังเชื้อเพลิงแบบระยะไกล)

โครงสร้างแชสซีส์ /ช่วงล่าง:

  • แชสซีส์เสริมเหล็ก gauge หนา + เสริมแร็กซ์เพิ่มความแข็งแกร่ง
  • แกนล้อ (axles) หนัก, ดุมล้อมากกว่า 8 รู (“eight-stud hubs”)

ระบบ off-road & ความทนทาน:

  • ดิฟเฟอเรนเชียลล็อกหน้า–หลัง (front/rear locking differential)
  • ตะขอกู้ (recovery hooks) คู่ หน้า–หลัง
  • ระบบกันโคลนท้องรถ (underbody protection) ใช้เหล็กความแข็งแรงสูง
  • Snorkel (ช่องอากาศสูง) แบบซีลเต็ม มีน้ำหนัก 850 มม. (wading depth)

ล้อ /ยาง: รุ่นบางตัวใช้ล้อเหล็ก 18-นิ้ว และยาง 33″ General Grabber All-Terrain

ระบบช่วยเหลือผู้ขับ (Driver assist /ความปลอดภัย):

  • มีระบบช่วยลากจูง Pro Trailer Backup Assist
  • มีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยแบบเดียวกับ Ranger รุ่นอื่น /จอ SYNC4 /กล้อง 360 องศา (ในบางรุ่น)
Previous Article

“มูลนิธิกลุ่มอีซูซุ” มอบทุนกว่า 6 ล้านบาท ให้เด็กไทยทั่วประเทศ!

Next Article

‘TOYOTA’ YARIS CROSS HEV / NIGHTSHADE SHADE TO SHINE !

You might be interested in …

“อีซูซุ” มอบเงิน 1 ล้านบาท ช่วยพัฒนาวัคซีนโควิด-19 

( 25-02-2021 ) คณะผู้ผลิตชิ้นส่วนอีซูซุ มอบเงิน 1 ล้านบาท ช่วยพัฒนาวัคซีนโควิด-19  -คณะผู้ผลิตชิ้นส่วนอีซูซุ นำโดย มร.เคอิจิ ชูมะ (กลาง) ประธานคณะฯ มร.มาซาชิ โอคุโบะ รองประธาน […]