( 16-08-2023 ) “โตโยต้า” เปิดตัวทันใจ !!! LUXURY ALL-NEW TOYOTA ALPHARD / VELLFIRE “PRIDE OF EXCELLENCE” เปิดราคาตามสไตล์ รุ่น ALPHARD 2.5 HEV LUXURY AWD / E-Four ราคา 4,499,000 บาท / รุ่น ALPHRAD 2.5 HEV ราคา 4,129,000 บาท และรุ่น VELLFIRE 2.5 HEV ราคา 4,279,000 บาท
-โตโยต้า ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ระดับ LUXURY 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุด ALL-NEW TOYOTA ALPHARD / VELLFIRE Generation ที่ 4 (40) ภายใต้คอนเซปต์ “Forceful x Impact Luxury” เครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร ที่ผสาน 2 พลังของมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร Dual VVT- i อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันสูงสุด 17.9 กม./ลิตร(ECO Sticker) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เทคโนโลยี E-Four ใหม่ โครงสร้าง TNGA พร้อมระบบความปลอดภัยเหนือระดับ Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่
-เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแบบ “Executive Lounge” แยกอิสระปรับได้ 10 ทิศทาง เบาะรองน่องปรับไฟฟ้า และระบบนวด Massage Relaxation ที่สามารถควบคุมผ่าน Detachable Tablet หลังคา Twin Moonroof พร้อมด้วย Ambient Illumination Light ปรับได้ 64 สี เพิ่มความพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วย หนังแท้ Premium Nappa และตกแต่งภายในด้วยลายไม้แบบ Uzuramoku
–ALL-NEW VELLFIRE ใหม่ หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย ลำโพง JBL 15 ตำแหน่ง และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว
–ALL-NEW TOYOTA ALPHARD / VELLFIRE ได้ 3 สีพิเศษ Platinum White Pearl ใหม่ / Precious Metal ใหม่ และ สี Black
ALPHRAD 2.5 HEV การออกแบบภายนอก / ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว /ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED พร้อมไปเลี้ยวแบบ Sequential / หลังคา Twin Moonroof /ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมบริเวณไฟท้าย
–การออกแบบภายใน เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแยกอิสระ ปรับได้ 10 ทิศทาง พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า ระบบนวด Massage Relaxation และระบบ Seat Ventilator ควบคุมผ่าน Detachable Tablet / คอนโซลด้านบนห้องโดยสารแบบ Super-long Overhead Console พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ว / Smart Comfort Program สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง /ม่านบังแดดปรับไฟฟ้า /จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลแบบสีบนกระจกหน้ารถ (HUD) / หน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว / ระบบนำทาง Navigator และระบบเชื่อมต่อ T-Connect / การเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย / ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระ 4 โซน พร้อม nanoe™X สำหรับห้องโดยสารตอนหน้า / สีเบาะภายในสีเบจ Neutral Beige (สำหรับสีรถภายนอก Platinum White Pearl และ Black) / และสีภายในสีดำ Black (สำหรับสีรถภายนอก Precious Metal)
-เครื่องยนต์ไฮบริด A25A-FXS ขนาด 2.5 ลิตร Dual VVT-i กำลังรวมสูงสุด 250 PS และประหยัดน้ำมันได้ถึง 17.9 กม./ลิตร (eco sticker) /ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD เทคโนโลยี E-Four ใหม่ / โครงสร้างสถาปัตยกรรม TNGA เพื่อการทรงตัว เกาะถนนดีเยี่ยม / ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด / ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 6 ตำแหน่ง / กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor)
VELLFIRE 2.5 HEV ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว / ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์พิเศษเฉพาะ VELLFIRE พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential / กันชนหน้าและหลัง ดีไซน์พิเศษเฉพาะ VELLFIRE / หลังคา Twin Moonroof / ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมบริเวณไฟท้าย / สีเบาะภายในสีดำ Black
ALPHARD 2.5 HEV LUXURY ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD เทคโนโลยี E-Four ใหม่
-การออกแบบภายนอก ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว / สัญลักษณ์ Executive Lounge / ไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential / หลังคา Twin Moonroof /ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมสวิตช์ควบคุมบริเวณไฟท้าย
–การออกแบบภายใน /เบาะนั่งผู้โดยสารแถวสองแยกอิสระ แบบ Executive Lounge ปรับได้ 10 ทิศทาง เบาะรองน่องปรับไฟฟ้า ระบบนวด Massage Relaxation และระบบ Seat Ventilator ควบคุมผ่าน Detachable Tablet พร้อมโต๊ะส่วนตัวแบบพับได้ / ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยลายไม้แบบ Uzuramoku / สีเบาะภายในสีดำ Black (สำหรับสีรถภายนอก Platinum White Pearl และ Black) และสีภายในสีน้ำตาล Sunset Brown (สำหรับสีรถภายนอก Precious Metal) เพิ่มวัสดุบุนุ่มภายในห้องโดยสาร / ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระ 4 โซน พร้อม nanoe™X สำหรับห้องโดยสารตอนหน้าและหลัง / คอนโซลด้านบนห้องโดยสารแบบ Super-long Overhead Console พร้อมจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 14 นิ้ / Smart Comfort Program สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารแถวสอง / ม่านบังแดดปรับไฟฟ้า
-จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจอแสดงผลแบบสีบนกระจกหน้ารถ (HUD) / หน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 14 นิ้ว / ระบบนำทาง Navigator และระบบเชื่อมต่อ T-Connect
การเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
–แพ็กเกจขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี (ช่วงปีที่ 6-10) พร้อมรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง / ขยายระยะรับประกันสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม.เมื่อเข้าเช็กระยะตามกำหนด / พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะจนถึง 100,000 กม.