( 11-11-2021 ) “เกรท วอลล์ มอเตอร์”ฉลอง All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ( จู-ไล-ออน ) คันแรกของโลกจากสายการผลิต นับเป็นรุ่นที่ 2 จากแบรนด์ HAVAL เตรียมเปิดตัวปลายปีนี้ โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด ใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะแบบเดียวกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT
–เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยโฉม All New HAVAL JOLION Hybrid SUV (ออลนิว ฮาวาล โจไลอ้อน ไฮบริด เอชยูวี) คันแรกของโลกจากสายการผลิตภายในประเทศ ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีจากแบรนด์ HAVAL รุ่นที่ 2 ที่จะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ พร้อมนำคณะสื่อมวลชนและซัพพลายเออร์เยี่ยมชมโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ในจังหวัดระยอง ซึ่งถือเป็นโรงงานเต็มรูปแบบแห่งที่สองนอกประเทศจีนที่เดินสายการผลิตตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ตอกย้ำความเชื่อมั่นและศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในภูมิภาคอาเซียนที่ได้มาตรฐานระดับโลก และเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
-หลังจากประสบความสำเร็จจากการเดินสายการผลิตและส่งมอบ All New HAVAL H6 Hybrid SUV รถยนต์รุ่นแรกที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย จนสามารถขึ้นครองอันดับ 1 ยอดขายรถยนต์คอมแพคเอสยูวีสูงสุดติดต่อกัน 2 เดือนซ้อนในเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานและคุณภาพของกระบวนการผลิตรถยนต์ ด้วยการเชิญคณะสื่อมวลชนและซัพพลายเออร์ เข้าเยี่ยมชมภายในโรงงานที่จังหวัดระยอง โดยมี มร. เกร็ก ลี รองประธานบริหารฝ่ายผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย และนายอำนาจ แสงจันทร์ รองประธานฝ่ายผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวต้อนรับ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานระยอง ก่อนนำคณะสื่อมวลชนและซัพพลายเออร์เข้าชมภายในโรงงานเพื่อชมกระบวนการผลิตทั้งรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV และ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ซึ่งนับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 ของสายการผลิตที่โรงงานระยอง พร้อมสัมผัสรถยนต์ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV
-จาก 1 ปีที่ผ่านมา ในปัจจุบัน โรงงานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่จังหวัดระยอง มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 800 คน และจะเพิ่มโอกาสและอัตราการจ้างงานในประเทศไทยขึ้นเป็น 1,000 ตำแหน่งภายในต้นปี 2565
-นอกจากนี้ โรงงานระยองยังทำงานอย่างใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจัดส่งชิ้นส่วนหรืออะไหล่รถยนต์ 4 แห่ง ได้แก่ HYCET NOBO AUTO EA และ MIND เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยชิ้นส่วนหลักจากพาร์ทเนอร์ที่นำมาใช้ ได้แก่ เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบสายไฟรถยนต์ ระบบชิ้นส่วนช่วงล่างรถยนต์ รวมถึงชิ้นส่วนตกแต่งภายในรถยนต์ เพื่อให้มั่นใจว่าเรามีชิ้นส่วนอะไหล่ที่เพียงพอกับความต้องการและมีความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์
ทั้งนี้ โรงงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ มอเตอร์ จังหวัดระยอง ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก อันได้แก่
- Press Shop
ถือเป็นขั้นตอนแรกของการผลิตรถยนต์ มีหน้าที่หลักในการผลิตแผงตัวถังขนาดใหญ่และชิ้นส่วนโลหะที่สำคัญ ประกอบด้วยสองสายการผลิต ซึ่งถูกออกแบบและติดตั้งโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากประเทศจีนและเกาหลีใต้ ทำงานร่วมกับการใช้ หุ่นยนต์ FANUC อัจฉริยะแบบ 6 แกน ในการส่งต่อชิ้นงานระหว่าง Press machine และยังมีการใช้ระบบเปลี่ยนแม่พิมพ์อัตโนมัติ (Automatic Die Change System) ที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสูงสุด และประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี
Body Shop
ตั้งอยู่บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 30,000 ตารางเมตร และมีกำลังการผลิตได้สูงสุด 120,000 คันต่อปี ซึ่งแบ่งการผลิตออกเป็นเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์เอสยูวีและรถกระบะด้วยกำลังการผลิต 80,000 คันต่อปี และในเฟสที่ 2 จะมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มอีก 40,000 คันต่อปี โดยในปัจจุบันมีการใช้หุ่นยนต์ FANUC จำนวน 52 ตัว ที่มีอัตราการทำงานอัตโนมัติ (Automation rate) อยู่ที่ 85% ผสานกับการออกแบบสายการผลิตที่ชาญฉลาดและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับการใช้ระบบ MES Process Visualization Technology เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการผลิต การใช้ AI technology ในการตรวจสอบการแสตมป์หมายเลขตัวถัง หรือ vin number ของรถยนต์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ระบบการปรับเปลี่ยนการผลิตรุ่นรถยนต์อัตโนมัติ เพื่อให้สายการผลิตมีความยืดหยุ่นในการผลิตรถยนต์ได้หลากหลายรุ่น รวมไปถึงเทคโนโลยี PDA ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลการผลิตด้านคุณภาพของรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Paint Shop
มีพื้นที่รวมประมาณ 39,000 ตารางเมตร โดยออกแบบให้มีกำลังการผลิตได้สูงสุด 120,000 คันต่อปี และประกอบไปด้วยกระบวนการผลิต 10 ขั้นตอน อาทิ การเคลือบสีตัวถังด้วยการนำไฟฟ้า ซึ่งเป็นการรับประกันประสิทธิภาพการป้องกันการกัดกร่อนและการเกิดสนิมของตัวถังที่ดีเยี่ยม กระบวนการ PVC ในการยาแนวตามตะเข็บรอยต่อ เพื่อป้องกันน้ำรั่วและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันสนิมตามตะเข็บรอยต่อของตัวถังตามจุดต่างๆ กระบวนการพ่นสีรองพื้นและสีจริง โดยใช้หุ่นยนต์พ่นสีจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สีรถมีความเรียบเนียนและสม่ำเสมอ อีกทั้งยังมีโปรแกรมการเลือกและเปลี่ยนสีได้อัตโนมัติ และมีสีให้เลือกมากถึง 24 สี นอกจากนี้ยังมี เตาอบสี ที่ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีชั้นสูงจากประเทศเยอรมนี ทำงานโดยการนำอากาศเสียที่อยู่ในเตาอบสีมาผสมกับอากาศบริสุทธิ์ในการเผาไหม้ เป็นการช่วยลดมลพิษก่อนปล่อยสู่อากาศภายนอก
General Assembly (GA) Shop
ครอบคลุมพื้นที่ ประมาณ 63,000 ตารางเมตร รองรับกำลังการผลิตสูงสุดได้ 120,000 คันต่อปี โดยมีการสร้างChassis Line ใหม่ สำหรับผลิตรถยนต์เอสยูวีโดยเฉพาะ คือ Intelligent Chassis Line นับเป็นครั้งแรกของ Chassis Line ที่เป็นการออกแบบอย่างอัจฉริยะ โดยมีเสาสำหรับแขวนโครงรูปตัว L เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย มีการใช้เทคโนโลยี Dual-Lift AGV เพื่อใช้ประกอบเครื่องยนต์และช่วงล่างของรถยนต์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีความเที่ยงตรงและปลอดภัยสูง และยังมีการติดตั้งแขนกล (Manipulator) ทั้งสิ้น 17 ตัว เพื่อช่วยลดภาระและความเมื่อยล้า รวมไปถึงเพิ่มความปลอดภัยให้พนักงานในการทำงาน นอกจากนี้ยังมีติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลขับขี่อัจฉริยะ (HUD System) ตรวจสอบการทำงาน และระบบกล้องอัจฉริยะ 360 องศา (360 Degree Smart Camera) ที่ช่วยตรวจจับด้วยระบบเซนเซอร์ต่างๆ ของรถยนต์ได้อย่างละเอียดแม่นยำอีกด้วย
–All New HAVAL JOLION Hybrid SUV มาพร้อมการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่หรูหรามีระดับกับโครงสร้างอันล้ำสมัย ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่แอ็คทีฟ สร้างความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วยไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ พร้อม Daytime Running Light ดีไซน์ล้ำสมัย ระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค ไฟ Follow Me Home ที่ส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ และไฟท้าย LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลังแบบ LED
ด้านหน้าของรถเป็นกระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา ที่โดดเด่นด้วยโลโก้ HAVAL ตรงกลาง พร้อมดีไซน์อันล้ำสมัยด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค สปอยเลอร์ท้าย เสาอากาศแบบ shark fin เข้าทรงกับดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์สปอร์ต ตัวล้อเป็นอัลลอยดีไซน์สปอร์ต ทูโทน ขนาด 18 นิ้ว พร้อมมิติตัวรถขนาด 1,841 x 4,472 x 1,619 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) และระยะฐานล้อ 2,700 มม.
-การออกแบบภายในภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” All New HAVAL JOLION Hybrid SUV โดดเด่นด้วยการออกแบบภายในแบบ 360 องศา ภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” กับห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ที่มาพร้อมการตกแต่งแบบ Two Tone ตัดด้วยลายเส้นสีโรสโกลด์ (Rose Gold) สีเงิน (Silver) สีดำ (Piano Black) และสีโครม (Chrome) มาพร้อมกับลำโพง 6 ตัว และหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay การเล่น MP3 รวมไปถึง JOOX และระบบนำทาง (Navigator) ที่สามารถบอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า
-นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Head-up Display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 และยังมี Wireless Charger ที่สามารถวางสมาร์ทโฟนเพื่อชาร์จได้อย่างสะดวกสบาย All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ยังสะท้อนถึงความหรูหราและทันสมัย ด้วยชุดเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter) ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันให้ห้องโดยสาร มาพร้อมกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดประตูและการสตาร์ทเครื่องยนต์
-เบาะที่นั่งเป็นหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ต ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยเบาะหน้าฝั่งผู้ขับขี่จะเป็นเบาะไฟฟ้าที่สามารถปรับได้ 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบระบายอากาศ เพื่อช่วยจัดท่านั่งให้สบายและอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นวิสัยทัศน์ได้ดีที่สุด ส่วนเบาะที่นั่งโดยสารด้านหลังจะมาพร้อมที่เท้าแขนกลาง และช่องปรับอากาศด้านท้าย เพื่อช่วยยกระดับความสะดวกสบายไปอีกขึ้น และยังสามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร