“อาวดี้”  เปิดตัวโหด RS 7 Sportback Performance และ RS 6 Avant ราคา 11 ล้าน !!!

( 07-03-2023 ) “อาวดี้”  เปิดตัวโหด ตระกูล RS Performance Edition 2 รุ่นรวด อัพเกรดมาตรฐานใหม่สายแรง RS 7 Sportback Performance และ RS 6 Avant ราคา 11,280,000 บาท เปิดจองวันนี้!!! 

-ก่อนหน้าอาวดี้ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถในตระกูล RS มาทั้งหมดแล้ว 9 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์สันดาปและไฟฟ้า 100% และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าการเปิดตัว RS 6 Performance Edition และ RS 7 Performance Edition ครั้งนี้ อาวดี้ ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่มีการเปิดตัวในเวลาที่ใกล้เคียงกับ World Premier

RS 7 Sportback Performance

อัพเกรดขุมพลังที่พร้อมระเบิดความแรงทุกวินาที ผลลัพธ์การออกแบบจาก Audi Sport เพื่อสะท้อนสมรรถนะและรูปลักษณ์ที่ดุดันแข็งแกร่งดีไซน์ภายนอกผสมผสานความสปอร์ตใสไตล์ Sportback และความหรูหราเข้าด้วยกัน เพื่อให้รถยนต์สมรรถนะสูงคันนี้ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายในทุกโอกาส ไม่ว่าจะสุขุมทรงพลังสำหรับชีวิตประจำวัน หรือเร้าใจไร้ขีดจำกัดเสมือนอยู่ในสนามแข่ง

Enthusiasm everywhere

รถสปอร์ตสมรรถนะสูงดีไซน์แบบ Sportback ท้ายลาด สุดยอดเอกลักษณ์จาก Audi และครั้งนี้มาพร้อมลุคที่ร้อนแรง เร้าใจยิ่งกว่าเดิม ด้วยล้อขนาด 22 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Audi Sport แบบ 5 ก้านในเฉดสีทองพร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ RS ตอกย้ำความดุดันด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ลาย Honeycomb ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black

Enhanced driving dynamics

มั่นใจกับประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม จากระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro with sport differential ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Ride Control (DRC) พร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวทั้งสี่ล้อ (All-wheel steering) ทำให้ทุกการควบคุมเป็นไปอย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง เติมเต็มด้วยระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports ส่งเสียงคำรามจากห้องเครื่องสู่ท้องถนนอย่างเร้าใจ

Hungry for power

ทะยานไร้ขีดจำกัดกับประสบการณ์ขับขี่แบบ Audi Sport สมรรถนะที่ดุดันยิ่งกว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid แบบ V8 biturbo ระเบิดพลัง 630 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 30 แรงม้า) แรงบิดที่ 850 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.4 วินาที (รุ่นปกติ 3.6 วินาที) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Extraordinary at first sight

ออกแบบภายในอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศการขับขี่ให้เอ็กซ์คลูซีฟยิ่งกว่าเดิม ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ honeycomb และด้ายสีแดง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังหุ้มหนัง Valcona ห้องโดยสารตกแต่งลาย Carbon Twill Structure พร้อมไฟเรืองแสงห้องโดยสาร ที่ปรับได้มากถึง 30 เฉดสี ควบคุมขุมพลังผ่านพวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS และ Paddle shift แสดงข้อมูลการขับขี่ผ่านจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว เสมือนมาตรวัดรถแข่ง พร้อมระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว สั่งการและจอมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส ตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว พร้อมดื่มด่ำกับเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen ระบบเสียง 3 มิติ

เพลิดเพลินกับเอฟเฟกต์ไฟแบบ Light staging ด้านหน้าและด้านท้าย เมื่อเปิด-ปิดล็อครถ มาพร้อมเทคโนโลยีไฟหน้าอัจฉริยะ HD Matrix LED with Audi laser light ส่องสว่างไกล คมชัดและแม่นยำ ลำแสงปรับการทำงานอัตโนมัติตามสถานการณ์การขับขี่ เพื่อไม่ให้รบกวนรถที่วิ่งสวนมาและรถที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง Laser light จะช่วยให้มีระยะการส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมไฟ Projector LED แบบ RS Performance ที่ประตูหน้า-หลัง

Assistance system ครบครัน

-Audi pre sense rear (ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหลัง) เรดาร์เซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านท้ายรถจะประเมินสภาพการจราจรที่อยู่ด้านหลัง ในกรณีที่ประเมินว่ามีแนวโน้วที่อาจเกิดอันตรายได้ ระบบจะดึงรั้งสายเข็มขัดนิรภัยของเบาะนั่งคู่หน้าให้กระชับ นอกจากนั้นแล้ว หากกระจกหรือหลังคาพาโนรามิคถูกเปิดค้างไว้ ระบบจะปิดให้โดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งเปิดการทำงานของสัญญาณไฟฉุกเฉิน

-Lane change warning (ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน) เรดาร์เซ็นเซอร์ 2 ตำแหน่งที่อยู่ด้านท้ายของตัวรถจะช่วยผู้ขับขี่ในการตรวจสอบสภาพการจราจรที่อยู่ด้านหลัง (มีข้อจำกัดในการทำงานที่ช่วงระดับความเร็วตั้งแต่ 15-20 กิโลเมตรชั่วโมง) เมื่อระบบประเมินว่ารถอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอันตรายได้หากผู้ขับขี่เปลี่ยนเลน ระบบจะแสดงสัญญาณเตือนขึ้นที่กระจกมองข้าง ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อตั้งใจเปลี่ยนเลนไปยังทิศทางดังกล่าว สัญญาณเตือนจะกระพริบถี่ขึ้น

-Exit warning (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเปิดประตูลงจากรถ) ขณะที่รถจอดหยุดนิ่ง ระบบจะตรวจสอบสภาพแวดล้อมทั้งด้านข้างและด้านหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่ตรวจพบยานพาหนะที่เคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตราย เช่น รถยนต์ หรือรถจักรยาน กำลังเคลื่อนเข้ามาจากด้านหลัง ในขณะที่ผู้โดยสารภายในรถกำลังเปิดประตูจากด้านใน สัญญาณไฟเตือนจะปรากฏขึ้น

-Rear cross traffic assist (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง)ระบบสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ขณะถอยรถออก หากตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้วพบว่ามีรถเคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตราย ระบบจะส่งสัญญาณเตือน และหากอยู่ในสถานการณ์คับขัน ระบบจะช่วยเบรกเพื่อลดทอนการอุบัติเหตุ

 

 RS 6 Avant Performance

-High performance meets everyday usability

พบกับที่สุดแห่งความสำเร็จของ RS 6 Avant Performance ความสมบูรณ์แบบของยนตรกรรมสมรรถนะสูงที่ถูกยอมรับจากทั่วโลก ถ่ายทอดผ่านดีไซน์อันโดดเด่นในแบบฉบับ Avant สเตชันแวกอน อันเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะมีใครเหมือนจาก Audi การผสมผสานอย่างน่าทึ่งของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ทรงพลังเร้าใจ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro พกพาขุมพลังที่ไร้ขีดจำกัดมากับพื้นที่ใช้สอยสำหรับทั้งครอบครัวยุคใหม่ ที่สะดวกสบายกว้างขวาง พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างถึง 548 ลิตร โดดเด่นเรื่องการใช้งานที่สะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ยิ่งทำให้ RS 6 Avant Performance มีความพิเศษสุดไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน หรือสนุกเร้าใจไร้ขีดจำกัดเสมือนอยู่ในสนามแข่ง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม RS 6 Avant Performance ได้กลายเป็นขวัญใจของผู้ที่รักความแรง และสร้างความตื่นเต้นให้กับ Audi Sport GmbH และฐานแฟนอาวดี้ทั่วโลกมากว่า 20 ปี

RS all along the line

การออกแบบรถยนต์สมรรถนะสูงเพื่อสะท้อน DNA ขุมพลังในสนามแข่ง คือหัวใจสำคัญของ Audi Sport และครั้งนี้ความตื่นเต้นที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว RS 6 Avant Performance กับรูปลักษณ์ที่เร้าใจยิ่งกว่าเดิม ล้อขนาด 22 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Audi sport แบบ 5 ก้าน มาในเฉดสีทอง พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ RS ดุดันทุกมิติด้วยชุดแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black

Powerful heart

สัมผัสขุมพลังอันดุดันกว่าที่เคย เครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid แบบ V8 biturbo ถูกพิสูจน์ด้วยตัวเลขอันร้อนแรง 630 แรงม้า(เพิ่มขึ้น 30 แรงม้า) แรงบิด 850 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.4 วินาที (รุ่นปกติ 3.6 วินาที) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สมรรถนะที่เร่าร้อนพุ่งทะยานสุดเร้าใจมาพร้อมเทคโนโลยีการควบคุมที่สมบูรณ์แบบด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro with sport differential ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Ride Control (DRC) พร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวทั้งสี่ล้อ (All-wheel steering) ทำให้การทะยานทุกแรงม้าเป็นไปอย่างสมดุลและมั่นคงในทุกสถานการณ์

-ห้องโดยสารลุคสปอร์ตเต็มขั้น เบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ honeycomb และด้ายสีแดง คันเกียร์และด้านข้างคอนโซลกลางหุ้ม Alcantara สีดำ เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona พร้อมไฟ Projector LED แบบ RS Performance

 

ที่ประตูหน้า-หลัง ผสานฟังก์ชันและความสปอร์ตได้อย่างลงตัว

-ห้องโดยสารตกแต่งลาย Carbon Twill Structure พร้อมไฟ Ambient light ที่ปรับได้มากถึง 30 เฉดสี

-ควบคุมมั่นใจกับพวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS

-Paddle shift แสดงข้อมูลการขับขี่ผ่านจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว เสมือนมาตรวัดรถแข่ง

-ระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว สั่งการง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

-จอมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส ตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว เติมเต็มอารมณ์การขับขี่ด้วยเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen ระบบเสียง 3 มิติ

-เทคโนโลยีไฟหน้าอัจฉริยะแบบ HD Matrix LED with Audi laser light ส่องสว่างไกล คมชัดและแม่นยำ ลำแสงปรับการทำงานอัตโนมัติตามสถานการณ์การขับขี่ เพื่อไม่ให้รบกวนรถที่วิ่งสวนมาและรถที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง Laser light จะช่วยทำให้มีระยะการส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมตื่นเต้นไปกับเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า (Light staging) และไฟเลี้ยวแบบ Dynamics

 

Previous Article

“อีซูซุ”  9 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR OF THE YEAR 2023” 

Next Article

“อีซูซุ” เปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้า ก้าวสู่สังคมความเป็นกลางทางคาร์บอน !!!

You might be interested in …

“ซีพี” โฟตอน ย้ำกระแส รถEV มาแรง เตรียมบุกตลาดไทย เต็มสูบต่อเนื่อง !!! 

( 28-12-2022 ) “ซีพี” โฟตอน ย้ำกระแส รถอีวี มาแรง เตรียมบุกตลาดรถบรรทุไฟฟ้าในไทย เต็มสูบต่อเนื่อง !!! –บริษัท ซีพี โฟตอน เซลส์ […]