“นิสสัน” เปิดตัว “อัลเมร่า ใหม่” บุกตลาดคอมแพคซีดาน

( 13-05-2023 ) นิสสัน เปิดตัว “อัลเมร่า ใหม่” บุกตลาดคอมแพคซีดาน แรงจริง จัดให้”  ดีไซน์ใหม่ด้วยการออกแบบ Next-generation V-motion พร้อมสีเทา Gray Sky Pearl เสริมแอปอัจฉริยะ NissanConnect Services เปิดราคา รุ่น E 549,000 บาท /รุ่น EL 589,000 บาท / รุ่น V 659,000 บาท และรุ่น VL 699,000 บาทพร้อมโปรฯ เลือกตามที่ต้องการ เงินดาวน์ 0% หรือ ผ่อนต่อเดือนเริ่มต้น 5,977 บาท หรืออัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%  รวมถึงประกันภัยชั้นหนึ่ง Nissan Premium Protection (NPP) ระยะเวลา 1 ปี พร้อมส่วนลดเงินสด 10,000 บาท #NISSANMOTORTHAILAND #NISSANTHAILAND

-นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ เครื่องยนต์ HRA0 ขนาด 1.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 100 แรงม้า (Ps) และแรงบิด 152 นิวตันเมตร (Nm) ให้อัตราเร่งที่แรง และรวดเร็วจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (flat torque) นอกจากนี้ยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้น่าทึ่งในอัตรา 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

-เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร ลูกสูบแบบ Delta Cylinder Head   หัวฉีดแบบ Central Injector และ Turbocharger ที่การควบคุมไอเสียด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเทคโนโลยีเคลือบบนกระบอกสูบแบบ Mirror Bore Coating เช่นเดียวกับที่ใช้ในรถซูเปอร์สปอร์ตอย่าง Nissan GT-R ซึ่งเพิ่มความทนทาน ช่วยลดการสึกหรอ และน้ำหนักของกระบอกสูบ ในขณะที่ปรับปรุงเรื่องการระบายความร้อน และการเผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้น  ระบบเกียร์เป็นแบบ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่องและทันใจ อัตราเร่งที่ดีขึ้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ และปลอดภัยเมื่อต้องเร่งแซง

-NissanConnect Services ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สื่อสารและควบคุมรถได้ด้วยระบบสั่งการระยะไกลต่าง ๆ ได้แก่ ระบบตรวจสอบสถานะการล็อกประตู   ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ระยะไกล  ระบบสั่งกะพริบไฟหน้า และสั่งระบบแตรระยะไกล  ที่ช่วยให้ค้นหาตำแหน่งของรถได้สะดวกแม้ในลานจอดรถที่มีรถแน่นขนัด  และ  My Car Finder หรือระบบค้นหาตำแหน่งรถ ซึ่งฟังก์ชันนี้จะช่วยค้นหา และนำทางไปยังรถได้ในทันที และครั้งแรกของเซกเมนท์ในตลาด ที่มีการติดตั้งฟังก์ชั่น SOS เพื่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ทันทีผ่านระบบเครื่องเสียงภายในรถยนต์ เมื่อเกิดเหตุ

 -แอปพลิเคชัน ยังช่วยแจ้งเตือนสถานะของรถได้ด้วย เช่น ตรวจสอบการล็อกของรถ หรือตรวจสอบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถ การแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดการบำรุงรักษาตามระยะ การเตือนเมื่อใช้ความเร็วเกินกำหนด  การให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะทางและระยะเวลาที่ใช้รถ   นอกจากนี้ เมื่อสัญญาณกันขโมยทำงาน หรือเมื่อรถออกนอกพื้นที่ที่กำหนด แอปพลิเคชันนี้จะแจ้งไปยังเจ้าของรถทันที ทำให้สามารถจัดการได้ทันท่วงที และสามารถติดตามตำแหน่งของรถได้ตลอดเวลา

 เทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ใน 360° SAFETY SHIELD

เทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS) นับเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งเทคโนโลยีนี้ในเซกเมนท์คอมแพค         ซีดาน ทำให้เจ้าของรถทราบแรงดันลมยางแต่ละเส้น รวมทั้งเตือนเมื่อลมยางต่ำหรือสูงกว่ากำหนด  เทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA) จะปรับไฟหน้าจากไฟสูงเป็นไฟต่ำทันทีเมื่อเซนเซอร์ตรวจจับได้ว่ามีรถสวน   และเทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW) ที่จะส่งสัญญาณเตือนด้วยไฟกะพริบและการสั่นที่พวงมาลัยเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถโดยไม่ได้ตั้งใจ

-เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ซึ่งจะเตือนเมื่อตรวจพบวัตถุกำลังเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหลังขณะกำลังถอย  เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring – IAVM) ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD)  เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW)  เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW)  และเทคโนโลยีช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)  สำหรับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ให้การปกป้องสูงสุด ได้แก่ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts)  ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุดเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย  เทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC) ที่ช่วยให้รถทรงตัวได้มั่นคงในทุกสภาพถนนและเลี้ยวได้อย่างแม่นยำ  เทคโนโลยีเบรกป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System – ABS)  เทคโนโลยีกระจายแรงเบรก (Electronic Brake Force Distribution – EBD) และเทคโนโลยีเสริมแรงเบรก (Brake Assist)

ห้องโดยสาร ดีไซน์ใหม่ อุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charger** เทคโนโลยีควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)  และกุญแจรีโมทอัจฉริยะดีไซน์ใหม่ นอกจากนี้ ยังมี NissanConnect ระบบอินโฟเทนเมนต์ล่าสุดจากนิสสัน รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนทั้งระบบ Android Auto และ Apple CarPlay รวมทั้งยังสามารถใช้ระบบนำทางผ่าน Google Map ได้สบาย ๆ บนจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เครื่องเสียง และระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ

 

 

 

 

Previous Article

“โตโยต้า” ประกาศเปิดรับจอง และส่งมอบยาริส เอทีฟตามปกติ

Next Article

“อีซูซุ” จับมือ เอส เอฟ เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา Digital Sound Check ชุดใหม่ล่าสุด !!!

You might be interested in …