“เบนซ์” จัดแผน Circular Economy สร้างวัสดุทดแทนชิ้นส่วนรถยนต์!

( 24-05-2024 ) “เมอร์เซเดส-เบนซ์” เดินหน้าแผน Circular Economy ลุยโปรเจกต์ “Urban Mining” สู่การสร้างวัสดุทดแทนชิ้นส่วนรถยนต์ในขั้นตอนการผลิต

-เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ TSR Recycling ผลักดัน
กลยุทธ์เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สู่การบรรลุวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน

-ริเริ่มโปรเจกต์ “Urban Mining” หรือการทำเหมืองในเมือง นำชิ้นส่วนรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์
ที่ครบอายุการใช้งานกลับมาสร้างคุณค่าใหม่ พร้อมเดินหน้าสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัสดุทดแทน (Secondary Raw Materials)

-มุ่งสู่เป้าหมายที่จะขยายสัดส่วนของการใช้วัสดุทดแทน ในการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ เพิ่มขึ้น 40%
ภายในปี พ.ศ. 2573

-สตุทท์การ์ดต, ประเทศเยอรมนี เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประกาศลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ร่วมกับ TSR Recycling GmbH & Co. KG โดยมีเป้าหมายในการผลักดันกลยุทธ์เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ภายใต้โปรเจกต์ “Urban Mining” หรือการทำเหมืองในเมือง ซึ่งเป็นการนำชิ้นส่วนรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ครบอายุการใช้งานกลับมาสร้างคุณค่าใหม่ ทั้งการรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการผลิต พร้อมเดินหน้าสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวัสดุทดแทน (Secondary Raw Materials) ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจหมุนเวียนในยุโรป โดยมุ่งเน้นไปที่วัสดุที่มาจากเหล็ก อลูมิเนียม โพลิเมอร์ ทองแดง และแก้ว นอกจากนี้ ในบันทึกข้อตกลงยังเพิ่มเติมไปถึงการวิเคราะห์ความต้องการและแหล่งที่มาของวัสดุ รวมถึงการประเมินผลเชิงพาณิชย์ โดยความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมองค์กร เพื่อก้าวสู่เป้าหมายในการแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

 

Markus Schäfer คณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี กล่าวว่า “ด้วยวิสัยทัศน์ ‘Design for Circularity’ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เราได้คำนึงถึงความสำคัญของเศรษฐกิจหมุนเวียนตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการผลิตรถยนต์ โดยมีเป้าหมายที่จะลดการใช้วัสดุจากแหล่งธรรมชาติ (Primary Resources) ด้วยการเก็บรักษาวัสดุตั้งต้นต่างๆ ไว้ในขั้นตอนการผลิตให้ได้มากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดการใช้วัสดุจากแหล่งธรรมชาติเหล่านี้ ในการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ลงให้ได้ถึง 40% ภายในปี พ.ศ. 2573 เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิม ในการร่วมมือพันธมิตรเรามีเป้าหมาย เพื่อเพิ่มสัดส่วนของวัสดุทดแทน (Secondary Raw Materials) ที่มาจากการรีไซเคิลชิ้นส่วนของรถยนต์
เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมทั้งการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังเล็งเห็นถึงศักยภาพในการทำ “Urban Mining” ซึ่งเป็นวิธีที่คุ้มค่าต่อการลงทุนและสามารถอนุรักษ์ทรัพยากรที่มีค่า
ผ่านระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างยั่งยืน”

-โครงการริเริ่มดังกล่าวนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุวิสัยทัศน์ “Ambition 2039” ซึ่งมีเป้าหมายในการทำให้กระบวนการผลิตรถยนต์ใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2582

 

 

 

 

 

Previous Article

“มาสด้า” ผนึกผู้จำหน่ายทั่วประเทศ จัดประชุมใหญ่ Mazda Mirai

Next Article

“ฟาสต์ ออโต โชว์ 2024”เตรียมเปิดฉาก! 3 – 7 กรกฎาคมนี้! ไบเทค บางนา

You might be interested in …

“อาวดี้” เปิดตัวปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชั่นล่าสุด Q7 และ Q8 

( 14-02-2022 ) “อาวดี้” ประเทศไทย เปิดตัวปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชั่นล่าสุด Q7 และ Q8 ปลั๊กอินไฮบริด The Best PHEV Ever นำเข้าทั้งคัน แรงสุด 462 แรงม้า พร้อมเพิ่มออฟชั่น ลดราคาลงถึง 1 ล้านบาท  #AUDITHAILAND  -AUDI เปิดราคาปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชั่นล่าสุด […]